วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554


"ซิลเวอร์เลค มิวสิค เฟสติวัล" เทศกาลดนตรีของไทย

 





"ซิลเวอร์เลค มิวสิค เฟสติวัล" เทศกาลดนตรีระดับโลกในประเทศไทยที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมปี หน้า จะมีศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง Incubus, Owl city และ Seether มาร่วมแสดงในงาน บ๊อบได้เล่าให้เราฟังถึงงานในครั้งนี้ว่า

"งานนี้ มันเริ่มต้นมาจากพี่แจ๊ค (เจษฎา พัฒนถาบุตร) และพี่สุรชัย (ตั้งใจตรง) ทั้ง 2 คนเป็นคนดนตรีเหมือนกัน แล้วเมื่อ 2-3 ปีก่อนหลังจากทั้ง 2 คนคุยกันว่า ตรงวินด์ยาร์ดที่แกมีสถานที่อยู่เนี่ย แกอยากทำให้เป็นมิวสิกคอมมิวนิตี้ แล้วก็อยากให้มีดนตรีดี ๆ ในไร่องุ่น เราก็เลยได้มีโอกาสไปดูสถานที่กัน ทางเราเองก็พร้อมในส่วนของโปรดักชั่นอยู่แล้ว พี่แจ๊คก็ไปดูกับพี่สุรชัย ผมก็ไปดูด้วย เราก็ไปดูแล้วก็เห็นว่าสถานที่มันสวยมาก

จึงเห็นว่า มันมีโอกาสที่จะได้สร้างมิวสิกเฟสติวัลให้เป็นที่รู้จักได้ เริ่มรวมหัวกัน ต่างคนก็ต่างใช้ประสบการณ์ คอนเน็กชั่นในแต่ละสายของตัวเองที่มีดึงเพื่อน ๆ เราซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ในการทำเฟสติวัลเป็น

ไซต์แมเนเจอร์ของทั่วโลกมาช่วยทำ"

โดย บ๊อบได้เล่าถึงความพร้อมของงานในครั้งนี้ว่า "ในส่วนของศิลปินเราคอนเฟิร์มหมดแล้ว เรื่องความพร้อมของศิลปินไม่ต้องห่วงเลย ในส่วนต่อไปก็คือ เรื่องสถานที่ สถานที่ตอนนี้เราปรับไปเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว

หลังจากที่ได้ทำ การโปรโมต "ซิลเวอร์เลค มิวสิค เฟสติวัล" ผ่านสื่อไปแล้ว ดูเหมือนว่าเสียงตอบรับจะดีมากกว่าที่บ๊อบคาดการณ์เอาไว้ ทั้งยอดการขายบัตร และที่สังเกตได้ชัดเจนที่สุดคือ ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่ก่อนหน้าที่จะออกสื่อมีสมาชิกอยู่ราว ๆ 4,000 คน แต่หลังจากที่ออกสื่อไปได้เพียงแค่ 1 วัน ยอดสมาชิกก็พุ่งสูงขึ้นไปเป็นเท่าตัว คือ 9,000 กว่าคนเลยทีเดียว

ในเรื่องนี้บ๊อบได้อธิบายให้ฟังว่า น่าจะเป็นผลมาจากความชัดเจนในวิธีการทำงานของทีม

"เรารู้ว่าคอนเทนต์หลักของเราเป็น

คอน เทนต์หลักของธุรกิจคอนเสิร์ต เราไม่เอาดนตรีมาแล้วมีกิมมิกอย่างอื่น เทศกาลของเราที่เราพูดกันที่เราเสนอมันเป็นแบบนั้น ข้อดีของเราคือ เราไม่มีปัญหาในเรื่องของการจัดศิลปินซ้ำ ๆ กัน

อีกอย่างหนึ่งที่ เทศกาลดนตรีจะมอบให้กับเราทุกคนคือ ความตื่นตัวในธุรกิจดนตรี และวงการดนตรีในบ้านเรา เพราะการเกิดขึ้นของงานในลักษณะนี้จะทำให้เกิดแนวทางดนตรีใหม่ ๆ และยังกระตุ้นให้นักดนตรีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าพัฒนาฝีไม้ลายมือของตัวเอง ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

"มันช่วยให้ความตื่นตัวของธุรกิจดนตรีมีมากขึ้น ให้โอกาสวงดนตรีในการเล่นไลฟ์ วงดนตรีเล็ก ๆ ที่เป็นอินดี้ได้มีโอกาสโชว์ฝีมือในเฟสติวัลใหญ่

ยิ่งเรามีเวทีให้ ได้แสดงออกเยอะ มันก็ยิ่งเป็นการสร้างการเรียนรู้ใหม่ ๆ ให้กับวงการเพลง แล้วกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตนเองขึ้นไปอีกขั้น"






*
"ประชาชาติธุรกิจออนไลน์"
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554 
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1323578860&grpid=no&catid=no












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น